เอกชนแวดวงมีเดียจ่อคิวลงสนามทีวีดาวเทียมเพียบ ล้วนแต่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางด้านคอนเท้นต์ รับเทรนด์เติบโตในอนาคต เผยโรสฯและกลุ่มแมมมอมซุ่มเตรียมการ เจรจาหาช่องสัญญาณดาวเทียม ด้านเอเชียเทเลวิชั่นฯเล็งเพิ่มอีกหลายช่อง หลังเปิดตัวช่องสุขภาพแล้ว

แหล่งข่าวจากวงการมีเดีย เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ในอนาคตการทำธุรกิจทีวีดาวเทียมเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก สังเกตได้จากขณะนี้มีผู้ประกอบการในวงการมีเดียหลายรายให้ความสนใจ และเตรียมที่จะเข้าสู่ธุรกิจทีวีดาวเทียมกันอย่างมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอนาคต และยังสามารถใช้ธุรกิจทีวีดาวเทียมนี้ต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกมากด้วยนอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่สามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงและเป็นตลาดที่กว้างเพราะเป็นสัญญาณที่รับผ่านดาวเทียม ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการลงทุนทางด้านทีวีดาวเทียมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความชำนาญ เทคโนโลยี และที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของคอนเท้นต์ที่จะป้อนให้กับสถานีทีวีดาวเทียม ส่วนเรื่องการเช่าสัญญาณนั้นไม่ยากเท่าไร เพราะสามารถเจรจากับผู้ให้บริการดาวเทียมเพื่อเช่าช่องสัญญาณได้ อยู่ที่การเจรจาตกลง เพราะทุกวันนี้เปิดกว้างแล้วแต่จะต้องแข่งขันกันในการเช่าช่องสัญณาณมากขึ้นเท่านั้นและราคาค่าเช่าทรานสปอนเอร์อาจจะแพงกว่าเมื่อก่อนก็ได้

"เรื่องของคอนเท้นต์เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทีวีดาวเทียมเกิดขึ้นหรือไม่ และเกิดขึ้นแล้วจะได้รับความนิยมหรือไม่อย่างไร สังเกตุให้ดี ผู้ที่สนใจเข้ามาทำธุรกิจทีวีดาวเทียมในเวลานี้หรือก่อนหน้านี้ก็มักจะเป็นผู้ที่มีพื้นฐานทางด้านคอนเท้นต์หรือเนื้อหา ซอฟท์แวร์ ต่างๆกันแข็งแกร่งอยู่แล้ว เพราะเรื่องของฮารด์แวร์นั้นไม่สำคัญ แต่ต้องแข่งกันที่เรื่องของซอฟท์แวร์หรือรายการนั่นเอง" แหล่งข่าวกล่าว

ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการในแวดวงมีเดียที่ไม่ได้ลงทุนทำทีวีดาวเทียม แต่ต้องการสร้างตัวเองให้เป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์เพื่อป้อนผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมเป็นหลัก ก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งเวลานี้มีผู้ผลิตหลายรายพยายามสร้างตัวเองเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์ จำนวนมาก เพื่อรองรับตลาดนี้ในอนาคต

โรสนำร่องทีวีดาวเทียมช่องเด็กกลางปี

นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการ บริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า บริษัทฯมีความสนใจทำธุรกิจทีวีดาวเทียมเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการทั้งในแง่ของการผลิตและการเจรจาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมซึ่งมีทั้งดาวเทียมไทยคมและต่างประเทศด้วย คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้หรืออย่างช้าภายในช่วงกลางปีนี้น่าจะเปิดตัวและให้บริการได้

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการทำทีวีดาวเทียมของโรสฯนั้นจะไม่เป็นเหมือนรายเดิมที่ทำกันอยู่ก่อนแล้วเช่น การเก็บค่าสมาชิก หรือการให้ดูฟรีแบบ ฟรีออนแอร์ (Free on Air) แต่บริษัทฯอยู่ระหว่างการคิดรูปแบบใหม่

สาเหตุที่บริษัทฯ สนใจทำทีวีดาวเทียมเนื่องจากว่า โรสเป็นบริษัทฯที่ทำทางด้านมีเดียและมีซอฟท์แวร์ในมือจำนวนมาก ทั้งของตัวเองและที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศ ทั้งภาพยนตร์และการ์ตูน ซึ่งลิขสิทธิ์ที่มีส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ เป็นสิ่งที่บริษัทฯ สามารถนำมาต่อยอดได้ทั้งหมด โดยทีวีดาวเทียม ที่จะทำนั้นในช่วงแรกนี้คาดว่าจะนำจุดแข็งของบริษัทฯมาเริ่มก่อนโดยจะทำเป็นช่องเฉพาะเช่น เกี่ยวกับความบันเทิงที่มีสาระ เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตพื้นฐานของคนไทย ไม่ว่าจะเป็น ลิเก ลูกกุง ลูกทุ่ง ตลก บันเทิง หรือช่องที่เกี่ยวกับเด็กทั้งช่อง ซึ่งช่วงแรกคาดวาจะเริ่มเพียงช่องเดียวก่อน แล้วจึงขยายช่องต่อไปในอนาคต

"เราจะมีการสร้างทีมงานขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลตรงนี้โดยเฉพาะ ส่วนเรื่องการผลิตนั้นเราก็มีบริษัทคัลเลอร์โซนซึ่งเป็นบรัษัทในเครือทำเกี่ยวกับโปรดักชั่นอยู่แล้ว ส่วนสตูดิโอก็มีอยู่แล้วทุกวันนี้ใช้ผลิตรายการฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งเรามีนโยบายที่จะใช้ทีมของบริษัทฯทำเอง 80% ส่วนอีก 20% จะว่าจ้างบริษัทอื่นทำให้โดยเฉพาะงานด้านครีเอทีฟกับโปรดิวเซอร์ และเรามีโครงการที่จะขยายพื้นที่เพื่อสร้างสตูดิโออีกด้วย ส่วนงบลงทุนโครงการทีวีดาวเทียมนั้นยังไม่สรุป" นายจิรัฐกล่าว

จากการขยายธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งทีวีดาวเทียม คาดว่าปีนี้ผลประกอบการจะเติบโตขึ้นเป็นเลขสองหลัก โดย***ส่วนรายได้จะมาจาก ดีวีดี วีซีดี 50% ธุรกิจมีเดียซึ่งรวมทีวีดาวเทียมด้วย 20% ธุรกิจจัดจำหน่ายหนังต่างประเทศ 20% และอีก 10% มาจากธุรกิจเมอร์ชันไดส์

ข้อความ 1

แมมมอมเล็งเปิด สวัสดีทีวี

นายไพรสณฑ์ สิทธิปัญญา กรรมการบริหาร บริษัท แมมมอม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจมีเดียครบวงจร ในเครือพาราวินเซอร์ กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า เป้าหมายของบริษัทฯ ต้องการเป็นผู้ให้บริการมีเดียครบวงจร ดังนั้นสื่อทีวีดาวเทียมจึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บริษัทฯ มีแผนจะเข้าไปลงทุนด้วย หลังจากที่ได้มีการขยายธุรกิจบริการอื่นๆ หลายอย่างแล้ว จากการก่อตั้งบริษัทเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาเช่นสื่อสิ่งพิมพ์ ออร์กาไนเซอร์ อีเวนต์ โปรดักชั่น เป็นต้น

ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ฐานธุรกิจเดิมที่ทำอยู่รวมกับการหาพันธมิตรเพื่อเข้ามาร่วมกันทำทีวีดาวเทียม ทั้งในแง่ของพันธมิตรทางด้านคอนเท้นต์ หรือพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งการสปอนเซอร์ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกันด้วย

โดยขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งคอนเท้นต์และรูปแบบรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการดาวเทียม รวมทั้งการเจรจากับทางผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวีอย่าง ยูบีซี เพื่อที่จะเปิดช่องขึ้นมาใหม่ เป็นของบริษัทฯที่จะเข้าไปบริหารจัดการการวางโปรแกรมรูปแบบรายการเอง ซึ่งได้กำหนดชื่อช่องเอาไว้แล้วว่า สวัสดีทีวี คาดว่าจะสามารถสรุปผลและเริ่มทดลองออกอากาศประมาณกลางปีนี้

สำหรับรายได้จากทีวีดาวเทียมนั้น ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าในนี้จะมีเท่าใด แต่เป็นธุรกิจที่มีอนาคต เนื่องจากปีนี้หากเริ่มได้จริงก็เป็นช่วงของการลงทุนก่อน ส่วนรายได้ทั้งบริษัทฯ ปีนี้วางไว้ที่ 100ล้านบาท

เอเชียฯเร่งสร้างแบรนด์ก่อนขยายช่องเพิ่ม

อีกรายหนึ่งที่น่าจับตามองคือ บริษัท เอเชีย เทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด ซึ่งมีนางยุวดี บุญครอง ผู้คร่ำหวอดในแวดวงมีเดียรายหนึ่งเป็นผู้กุมบังเ***ยน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นออกอากาศทีวีดาวเทียมไปแล้ว 1 ช่อง ในชื่อว่า เอช พลัส ชาแนล หรือช่องสุขภาพ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้เริ่มออกอากาศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2550 และมีการทำตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์อย่างหนักทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ที่หลากหลาย รวมทั้งการจัดทำอีเวนต์ เช่นการจับมือกับสถาบันลดความอ้วนมารีฟรานซ์เพื่อทำกิจกรรมเรียลิตี้ร่วมกัน

นางยุวดี บุญครอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียฯ กล่าวว่า รูปแบบการทำทีวีดาวเทียมของบริษัทฯนั้น จะเป็นลักษณะแบบฟรีทีวีคือจะไม่มีการเก็บค่าสมาชิกหรือค่าบริการ ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถขยายฐานผู้ดูได้มากและรวดเร็ว ส่วนรายได้จะมาจากการขายโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งในช่วงแรกนี้จะเป็นสินค้าและบริการเกี่ยวกับสุขภาพที่มาลงโฆษณา เนื่องจากช่องเอชพลัสชาแนลนี้เป็นรายการเกี่ยวกับสุขภาพ

ทั้งนี้คอนเท้นต์หรือเนื้อหาที่ออกอากาศนั้น จะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศกว่า 30% ส่วนอีก 70% จะเป็นรายการที่บริษัทฯผลิตเอง รูปแบบการนำเสนอรายการนั้นจะมีทั้งที่เป็นเนื้อหา วิชาการ บันเทิง เรียลิตี้ วาไรตี้ หลากหลาย

นางยุวดี ให้เหตุผลถึงการทำทีวีดาวเทียมว่า นอกจากจะเป็นเทรนด์ของธุรกิจแล้ว อีกประการหนึ่งมาจากความไม่แน่นอนของผังรายการของฟรีทีวี มีการเปลี่ยนแปลงตลอด และไม่มีหลักประกันว่ารายการจะอยู่ได้ยาวนานเท่าใด บางครั้งรายการดีก็อยู่ได้ไม่นาน อีกทั้งต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นด้วย จึงทำให้ต้องมองหาธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม ซึ่งทีวีดาวเทียมของบริษัทฯนี้มั่นใจว่า ในอนาคตจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯใน***ส่วนที่ 30% หรือสูงเป็นอันดับที่สองรองลงมาจากการผลรายการป้อนฟรีทีวี

เนื่องจากจะสามารถเพิ่มฐานผู้ชมได้เนื่องจากสามารถรับชมได้ทั้งผ่านทางเคเบิ้ลทีวี จานดาวเทียม อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ ของทรู และจะทำให้รายได้รวมมีมากกว่า 800ล้านบาท ภายหลังจากที่ทีวีดาวเทียมนั้นให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบและจำนวนช่องมากขึ้น จากปัจจุบันรายได้องค์กรอยู่ที่ 300ล้านบาท

ในอนาคตทางเอเชียฯเองก็มีแผนที่จะเปิดช่องทีวีดาวเทียมเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 5 ช่อง ซึ่งจะเป็นช่องที่มีกลุ่มเป้าหมายและรายการเฉพาะทั้งหมด เช่น ช่องรายการบันเทิง ช่องรายการเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ช่องรายการที่เกี่ยวกับความสุข เป็นต้น