ฮือฮาทฤษฎีตัว“V”คว่ำ เยอรมนีจะ...

ฮือฮาทฤษฎีตัว“V”คว่ำ เยอรมนีจะคว้าแชมป์โลก อาถรรพ์เลข 16 ...

ฮือฮาทฤษฎีตัว“V”คว่ำ เยอรมนีจะคว้าแชมป์โลก

โดย ผู้จัดการรายวัน

6 มิถุนายน 2549 00:47 น.

              ศึกลูกหนังยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งชาวโลกทุกคนรอคอยเวียนมาบรรจบครบรอบ 4 ปีอีกครั้ง และเที่ยวนี้หนที่ 18 ระเบิดการแข่งขันกันขึ้นในดินแดนยุโรปที่ประเทศเยอรมนี โดยบรรดาเกจิและเซียนบอลต่างพากันกันคาดหมายและทำนายทายทักไปต่างๆนานาถึงชาติที่จะได้ชูถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2006 ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ที่นครเบอร์ลิน

       บรรดาทีมชาติต่างๆที่มีสิทธิ์หยิบชิ้นปลามันคว้าถ้วย ฟีฟ่า เวิลด์คัพครั้งนี้ไปครอง ไม่แคล้วอยู่ในกลุ่มทีมซึ่งเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้วอย่าง บราซิล, อาร์เจนติน่า และทีมในทวีปยุโรปซึ่งน่าจะได้เปรียบเรื่องสภาพแวดล้อมและการไม่ต้องเดินทางไกลอย่าง อิตาลี อังกฤษ และแน่นอน “เจ้าภาพ” เยอรมนี

       อย่างไรก็ดีบรรดาเกจิและหลายสายตาจากบรรดาแฟนบอลต่างจับจ้องมองไปยังทีมอย่าง บราซิล ตัวเต็งตลอดกาล อดีตแชมป์โลก 5 สมัยในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และครั้งล่าสุดในปี 2002

       ความจริงก็คือ “แซมบ้า” คือทีมแรกและทีมเดียวจากอเมริกาใต้ที่ดอดมาคว้าถ้วยได้ถึงแผ่นดินยุโรปเมื่อปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน เที่ยวนี้พวกเขาจะประสบความสำเร็จเป็นแชมป์สมัยที่ 6 และเป็นการคว้าแชมป์ในแผ่นดินยุโรปได้อีกหรือไม่

       อย่างที่ทราบกันดีว่าบราซิล คือทีมที่มีมาตรฐานสูงเป็นอย่างยิ่งในศึกฟุตบอลโลก พวกเขาสามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเตะรอบสุดท้ายได้สำเร็จทุกสมัย แถมผลงานช่วง 4-5 สมัยล่าสุดนั้นก็ร้ายกาจเหลือเกินเข้าชิงทุกครั้งมาตั้งแต่เมื่อ 1994 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ บราซิล เป็นแชมป์โลกด้วยการยิงจุดโทษเฉือนอิตาลี ถัดมาอีกสี่ปีที่ฝรั่งเศส ทีม “แซมบ้า” ก็เข้าชิงอีกครั้งแต่ไปพลาดท่าพ่ายเจ้าภาพยับเยินถึง 0-3 และล่าสุดปี 2002 บราซิล ชิงชนะเลิศกับเยอรมนีและชนะไปด้วยสกอร์ 2-0

       ปี 2006 ด้วยขุนพลพระกาฬระดับ โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, อาเดรียโน่, กาก้า และ โรเบอร์โต้ คาร์ลอส น่าคิดยิ่งนักว่าจะมีใครหยุดพวกเขาอยู่ ?

อย่างไรก็ตามในต่างประเทศมีทฤษฎีการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกที่น่าสนใจ ซึ่งบรรดาแฟนฟุตบอลพากันโจษจันท์ถึงความแม่นยำของ “ทฤษฎีตัว V คว่ำ”ซึ่งเกิดจากการพลอตกราฟ สถิติการคว้าแชมป์ของทีมชาติต่างๆซึ่งพาเหรดกันคว้าถ้วยเกียรติยศตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมานั่นเอง

       ทฤษฎีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งอังกฤษเป็นเจ้าภาพแล้วคว้าแชมป์โลกสำเร็จ ต่อมา บราซิล เยอรมนี และ อาร์เจนติน่า ทยอยกันเป็นแชมป์ จนมาถึงทีม “อัซซูรี่” หรืออิตาลี ในปี 1982 ในยุคของกัปตันทีม ดิโน่ ซอฟฟ์ นายทวารสุดเหนียว ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นจุดยอดสุดของตัว V คว่ำ

       ต่อมาอาจจะเรียกว่าช่วงขาลงของตัว V คว่ำ อาร์เจนติน่า ในยุคของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ย้อนกลับมาเป็นชูถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ ในปี 1986 ตามด้วย “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในยุคของฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวร์ ในปี 1990 และบราซิลในปี 1994

       หลังจากนั้นในปี 1998 หลายคนพากันส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง เพราะตามทฤษฎีนี้ อังกฤษ จะต้องกลับมาเป็นแชมป์โลก แต่กลายเป็นฝรั่งเศสเจ้าภาพที่ได้ไปแทนซะฉิบ

       ทว่า..ช้าก่อน..หากลองพิจารณาให้ดีๆ ที่ฐานหรือจุดต่ำสุดของตัววี ในปี 1996 และ 1998 หากเปลี่ยนยึดเป็นชาติ “เจ้าภาพ”แทน นั่นก็คืออังกฤษในปี 1966 และฝรั่งเศส 1998 ทฤษฎีตัว “V”คว่ำ ก็ยังถูกต้องและแม่นยำอยู่มิใช่หรือ ?

       ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...อีก 4 ปีถัดมา บราซิลย้อนกลับมาเป็นแชมป์โลกในปี 2002 ทฤษฎีตัว “V” คว่ำกำลังทำงานอีกครั้งเป็นรอบที่สองโดยเส้นทางอยู่ในช่วงขาขึ้น

       และหากเป็นจริงตามทฤษฎีนี้ ก็ถึงคราวที่ทีม “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี จะกลับมาคว้าถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ อีกคำรบ!!!

       “อินทรีเหล็ก”ภายใต้การคุมทีมของ “ฉลามขาว” เจอร์เก้น คลินส์มันน์ กำลังอยู่ในยุคถ่ายเลือด ตัวผู้เล่นยุคยิ่งใหญ่ในทศวรรษ 90 อย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส, อันเดรส เบรห์เม่, สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์กและ มัทธีอัส ซามเมอร์ ต่างอำลาไปหมดแล้วโดย คลินส์มันน์ พยายามเข็นเด็กหนุ่มอย่าง ลูคัส โพโดลสกี้, บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์, เพอร์ มาเตร์ซัคเกอร์ และ โรเบิร์ต ฮูธ ขึ้นมาแทน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาก็เรียกทั้งก้อนอิฐและดอกไม้ได้พอๆ กัน

ผู้ตั้งกระทู้ preecha :: วันที่ลงประกาศ 2006-06-06 17:45:44

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (493048)

แม้จะเป็นทีมที่หลายคนปรามาส แต่ เยอรมนี อาจอาศัยความเป็นเจ้าภาพและเสียงเชียร์ของแฟนบอลส่งให้พวกเขาประสบความสำเร็จอีกครั้งเหมือนเมื่อปี 1974 ซึ่งทีมจากเมืองเบียร์ได้แชมป์ทั้งๆที่เป็นรองทีม “กังหันสีส้ม” ฮอลแลนด์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทัวร์นาเม้นต์

       นอกจากนั้นแล้วบารมีของฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวร์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ประธานจัดการแข่งขันครั้งนี้ถูกโฉลกกับถ้วยฟีฟ่าเวิลด์คัพเป็นอย่างยิ่ง เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ได้ชูถ้วยฟุตบอลโลกใบนี้ (ก่อนหน้านั้นใช้ถ้วยจูลส์ริเม่ต์) และคว้าแชมป์โลกกับทีม “อินทรีเหล็ก” มาแล้วสองสถานะ ในฐานะกัปตันทีมในปี 1974 และหัวหน้าโค้ชในปี 1990

       สุดท้ายแล้วทฤษฎี “V”คว่ำจะคงความแม่นยำเหมือนในอดีต และ เยอรมนี จะก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์ในฟุตบอลโลก 2006 ครั้งนี้ได้สำเร็จจริงหรือไม่...คงต้องรอพิสูจน์กันในเวลาอีกไม่นาน!!!
http://www.gayji.com/interactive/worldcup/worldcup.htm
ดูรุปที่นี่

ผู้แสดงความคิดเห็น preecha วันที่ตอบ 2006-06-06 17:49:18

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล