กสท.เตรียมดีเดย์ทดลองออกอากาศทีวีดิจิตอลครั้งแรกเดือน ธ.ค.นี้

ภายใต้กรอบเวลาไม่เกิน 6 เดือนในประเภททีวีสาธารณะ

ส่วนประเภทธุรกิจ คาดเปิดประมูลใบอนุญาตช่วง ก.พ.-มี.ค. ปีหน้า
       
       พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์

และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง

 และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท.

มีมติอนุมัติการแบ่งสัดส่วนคลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล

 ก่อนที่จะมีการยุติระบบแอนะล็อกในอัตราส่วน 20% ต่อช่องรายการวิทยุชุมชน

, 20% ต่อช่องรายการสาธารณะ และ 60% ต่อช่องรายการธุรกิจ

ทั้งนี้ ช่องรายการทั้งหมดยังแบ่งเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย

1. ข่าวสารสาระ 2. กลุ่มช่องรายการเด็ก และเยาวชน

 3. ช่องรายการทั่วไปที่แพร่ภาพแบบปกติ และ

 4. ช่องรายการที่แพร่ภาพแบบ HD ซึ่งคาดว่าจำนวนช่องในระบบทีวีดิจิตอล

หากคิดเป็นเฉพาะแบบแพร่ภาพปกติทั้งหมดจะมีจำนวน 60 ช่อง
       
       “เบื้องต้นตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนการศึกษาของสำนักงาน กสทช.

ว่าจะมีส่วนของช่องที่เป็น HD ในอัตราส่วนเท่าไร ซึ่งช่อง HD 1 ช่อง

จะกินขนาดเท่ากับช่องแบบปกติ 3-4 ช่อง”
       
       อย่างไรก็ตาม หากยุติการออกอากาศในระบบทีวีแอนะล็อกแล้ว

 ช่องรายการสำหรับทีวีดิจิตอลจะมีปริมาณมากขึ้น จากการคิดเฉพาะช่องปกติจำนวน 60 ช่องจะเพิ่มขึ้นเป็น 70 ช่อง โ

ดยเมื่อถึงเวลาดังกล่าว กสท.จะมีการปรับสัดส่วนการให้บริการอีกครั้งเป็น 20% ต่อช่องรายการวิทยุชุมชน,

30% ต่อช่องรายการสาธารณะ และ 50% ต่อช่องรายการธุรกิจ เนื่องจาก

 กสท.เห็นว่า เมื่อเพิ่มช่องแล้วควรเน้นเพิ่มช่องรายการในกลุ่มสาธารณะมากกว่าแบบธุรกิจ
       
       ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ กสท.จะมีการกำหนดให้เริ่มทดลองออกอากาศทีวี

ในระบบดิจิตอลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน

โดยจะอนุญาตให้ทดลองออกอากาศเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่มีใบอนุญาต

เป็นผู้ประกอบการโครงข่าย ผู้ที่ออกอากาศในระบบทีวีแอนะล็อกเดิม

 หรือผู้ที่ได้รับใบอนุญาตในประเภททีวีสาธารณะที่จะมีการพิจารณา

จัดสรรใบอนุญาตทีวีดิจิตอลเป็นประเภทแรกในเดือน ธ.ค.นี้